บันทึกของ 7 Social

Chris
3 min readJun 27, 2020

ช่วงนี้ผมมีความขับข้องขุ่นหมองใจซ้ำไปซ้ำมาเป็นวงจรอย่างมาก

ผมถามตัวเองหลายครั้งว่าสิ่งเหล่านี้ความรู้สึกเหล่านี้เกิดจากอะไร ผมไม่เข้าใจมัน จนได้ไปเจอบทความที่อธิบายความเป็น 7 Enneagram type แบบ Social แล้วพบว่ามันตรงกับสิ่งที่ผมเป็นมาก เลยอยากบันทึกไว้เพื่อเตือนตัวเอง และถือโอกาสแบ่งแชร์สำหรับคนที่อาจจะอยู่ในสภาวะเดียวกัน7

และแน่นอนว่าถ้าอ่านดูก็จะรู้ว่าลึกๆ การที่ผมออกมาเขียนบล็อกก็เป็นส่วนนึงของความเป็น 7 Social เหมือนกัน

Social 7 มีบุคลิกที่เป็น Counter ของ 7 ทั่วไป หรือเรียกได้ว่า “ต่อต้านความตะกละ” คน Social 7 ต่อต้านความตะกละของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงการเอาเปรียบคนอื่น Naranjo บอกว่าเหมือนเขาเหล่านั้นสามารถสัมผัสกับแนวโน้มตะกละตะกลามของตัวเอง และตัดสินใจที่จะนิยามตัวเองว่าเป็นผู้ต่อต้านความตะกละ

ถ้าความตะกละคือความปราถนาที่มากขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการฉวยโอกาสทุกอย่างที่ฉวยได้จากสถานการณ์ตรงหน้า มันก็จะมีส่วนของความเอารัดเอาเปรียบอยู่ในความตะกละ แต่ 7 social เป็น 7 ที่ต้องการจะเป็นคนดี บริสุทธิ์ และไม่ปฏิบัติตาม Gluttony Passion ที่เกิดขึ้นในตัวเอง คนพวกนี้คือคนที่อยากจะหลีกเลี่ยงการฉวยโอกาสมากเกินไป และพยายามต่อต้าน Unconious tendency ที่ตนเองมีจะ Exploit (1) มนุษย์คนอื่น

เราจะเห็นความตะกละของ 7 Social ได้ยาก เพราะเขาจะพยายามซ่อนมันไว้ด้วยพฤติกรรมที่ทำและเสียสละเพื่อคนอื่น การทำพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้คน 7 Social ไม่รู้สึกผิดกับตัวเองที่มีแรงภายในผลักดันที่สนใจความพอใจ และ self-interest ที่อาจจะทำให้ตัวเองเผลอเอารัดเอาเปรียบคนอื่น

7 Social หลีกเลี่ยงการสนใจความตะกละและความต้องการของตัวเองโดยการไล่ตามอุดมคติของตัวเองและโลกนี้ เขาเสียสละความตะกละของตัวเองเพื่อเป็นคนที่ดีกว่า เขาทำงานเพื่อสร้างโลกที่ดีกว่า โลกที่จะไม่มีความเจ็บปวดและความขัดแย้ง ซึ่ง Naranjo กล่าวไว้ว่า เขาเหล่านั้น defer (ยืดเวลา) การไล่ตามความต้องการของตัวเองไปไว้ที่หลังเพื่อจะไล่ตามอุดมคติของตัวเองก่อน

ในความพยายามที่จะต่อต้านความตะกละของตัวเอง 7 Social มักจะทำตัวบริสุทธิ์(ตามอุดมคติของตัวเอง ผมเสริมเอง) มากจนเกินไป ความพยายามที่จะเป็นคนบริสุทธิ์สามารถสร้างความกังวลในการกิน สุขภาพ จิตวิญญาณ ซึ่ง Naranjo กล่าวไว้ว่า 7 Social บ่อยครั้งจะ เป็น Vegan

ในการตามหาความบริสุทธิ์และต่อต้านความตะกละ เขาเหล่านั้นจะแสดงอุดมคติของการบำเพ็ญตนออกมา เขามักจะให้คนอื่นมากกว่าตัวเอง เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นคนดีและเพื่อต่อต้านแรงขับตะกละของตัวเอง ถึงแม้ว่าใจจริงเขาอาจจะอยากได้เค้กก้อนใหญ่ที่สุด แต่เขาจะพยายามต่อต้านความรู้สึกที่นั้น และเอาเค้กก้อนเล็กสุด เหลือก้อนใหญ่สุดให้คนอื่น

แล้ว Ego reward (กลยุทธ์รักษาตัวตน) ของพฤติกรรมที่และดูเหมือนจะบริสุทธิ์และไม่เห็นแก่ตัวนี้คืออะไร? 7 Social อยากถูกมองว่าเขาเป็นคนดี โดยพิสูจน์ได้จากทุกสิ่งที่เขาเสียสละทำลงไป เขาเหล่านี้มีความตะกละตะกลาม มี Gluttony ที่จะถูกยอมรับและมองเห็นว่าเป็นคนดี เป็นผู้เสียสละ เขาหิวกระหายที่จะได้รับความรักและการยอมรับ และความหิวกระหายนี้สามารถมีได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและไม่รู้จักพอ (เสริมว่าตามพื้นฐาน Sin/Passion ของ 7 — Gluttony)

คน 7 เหล่านี้ใช้การเสียสละละอุทิศตนเพื่อปิดบังจุดบกพร่องและข้อจำกัดของตนเอง และเชิญชวนให้คนอื่น ยอมรับนับถือ ศรัทธา หรือรัก เพราะเขาเชื่อว่าการยอมตามแรงขับตะกละพื้นฐานของตัวเองจะทำให้ไม่ได้รับการยอมรับ เป็นคนไม่ดี เขาจึงเลือกที่จะเสียสละและจ่ายความตะกละพื้นฐาน (ผมเสริม: เช่น เงินตรา อาหาร พลังงาน เวลา) เพื่อให้ได้รับที่เขาหิวกระหายลึกๆ นั่นคือ ความชื่นชมและยอมรับนับถือ (ผมเสริม: ซึ่งคือแรงขับเดียวกับ 7 ที่มีความตะกละและมีความสุขนิยม แต่ 7 Social ตะกละการยอมรับ การถูกนับถือ ความชื่นชม มากกว่าของเชิง Physical ที่จับต้องได้ อย่าง เงิน อาหาร การท่องเที่ยว)

ถึงตรงนี้ ผมเสริมว่าผมชอบที่ 7 Social ท่านนึงที่ศึกษาเรื่องนี้กัดไว้อย่างเจ็บแสบว่าแรงขับของ 7 Social คือ Won’t you guys now admire me and let me know how important I am to you, because look at all the things I sacrifice and gave up. Look at it, and tell me that I am admirable and important.

นอกจากความต้องการคำชื่นชมและยอมรับนับถือแล้ว 7 Social ยังต้องการรักษาหน้า ลดความขัดแย้ง และสร้างหนี้บุญคุณกับคนอื่น ซึ่งความต้องการเหล่านี้อาจจะนำไปสู่ความสัมพันธ์อันมากมาย ที่อยู่ในระดับผิวเผินไม่มีความลึกซึ้ง

นอกจากความต้องการยอมรับและมองเห็นความเสียสละของตนเองและ 7 Social ยังมักจะวางตัวเป็นผู้ช่วยเหลือ ผู้รับใช้ และช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของคนอื่น แต่ในระหว่างที่เขาง่วนกับการเยียวยาความเจ็บปวดของคนอื่น เขาจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดของตัวเอง ดังนั้นการยึดติดกับการช่วยเหลือและบรรเทาความเจ็บปวดของคนอื่นของ 7 Social จึงอาจจะเป็นกลยุทธ์ในการ Project ความเจ็บปวดของตัวเองไปข้างนอกและบรรเทามันจากระยะปลอดภัย และเขาจะอยู่เพื่อเยียวยาความเจ็บปวดนั้นในตัวคนอื่น (แอบร้องไห้ในระหว่างแปลย่อหน้านี้)

บุคลิกใจกว้างและ Indulgent (2) นี้สามารถใช้ในการบริหารงานและควบคุมพลังงานเพื่อเป้าหมายบางอย่างได้ เขามีแนวโน้มที่จะทำงาน ส่งมอบงาน และบริการด้วยความอุทิศตนเป็นอย่างมาก

7 Social มักจะพบตีตราบาปว่าความเป็นแก่ตัวเป็นเรื่องเลวทราม ต้องการจะถูกมองเป็น “เด็กดี” หรือ “คนดี” เขาเหล่านี้จะมีความรู้สึกผิดต่อ self-interest ที่กดไว้ และบางทีเขาจะ Project ความตะกละที่ถูกกดไว้นี้ไปแก่ผู้อื่น และตัดสินผู้อื่นว่าไม่มีความอุทิศตนมากพอ

7 Social มักจะไม่เชื่อถือตนเองเพราะลึกๆ เขารู้ว่าเขาผสมความตะกละ self-interest ลงไปในพฤติกรรมที่เหมือนจะบริสุทธิ์ และเขาตัดสินสิ่งเหล่านั้นแรงขับเหล่านั้นว่าเป็นสิ่งเลว

7 Social เป็นคนที่ยึดอุดมคติอย่างมาก แต่อุดมคติของเขามีส่วนผสมของทั้งภาพลวงตา เจตนาดี และการให้เหตุผลอย่างชาญฉลาด ซึ่งทั้งหมดนี้รวมกันเป็น “Intellectual drug” ที่ขับให้เกิดพฤติกรรมต่างๆ ที่ทำให้เขาเป็นคนที่ Active และเดินไปสู่อุดมคติที่เขาต้องการจะทำให้เกิดในชีวิตจริงเพื่อพัฒนาโลก เขาต้องการให้อุดมคตินั้นผลักดันเขา เขาลงทุนลงแรงเป็นอย่างมากในการเป็นคนดี ช่วยเหลือคนอื่น ลงทุนในอุดมคติ ลงทุนในความอุทิศตน ลงทุนในความเสียสละ เพื่อให้รู้สึกว่าตนเองเป็นที่ยอมรับ

เขามีแนวโน้มที่จะใช้การให้เหตุผลเพื่อจะสนับสนุนสิ่งที่เขาทำในนามของอุดมคติและความเสียสละ ดังนั้น หากเขาถูกพิสูจน์ว่าเขาสิ่งที่เขาเชื่อมันไม่จริงหรือไม่ถูกต้อง เขาสามารถเปลี่ยนเหตุผลและแนวทางของตัวเองและบอกว่านี่เป็นการเติบโต แต่เวลาที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เขาอาจจะรู้สึกได้ถึงความตื่นกลัวเป็นอย่างมากที่จะเสียอุดมคติของตัวเอง เพราะเขาหวั่นว่าการขาดอุดมคติให้ยึดถือจะทำให้เขาเป็นคนว่างเปล่าที่ไม่สนใจโลกนี้อีก

โฟกัสของ 7 ที่พยายามจะขับดันตัวเองผ่านอุดมคติ มักจะสร้างความรู้สึกภายในที่ว่าตัวเองเป็นคนที่ได้ปฏิบัติภารกิจกอบกู้โลก แต่ในระหว่างนั้น เขาก็มักจะตำหนิตัวเองที่เป็นคนซื่อ เป็นคน Unrealistic ที่คาดหวังจากโลกและมนุษยชาติมากจนเกินไป 7 Social มีคุณสมบัติของเด็กและวัยรุ่น: เขามีความท้าทาย มีความฉลาดเฉลียว บางทีก็ดูเป็นคนซื่อ และก็ขี้เกียจเวลาที่ Task ที่ทำต้องการจากเขามาก นอกจากนี้ เขาอาจจะไม่ Aware รับรู้ถึงความขี้เกียจ รักสบาย และความหลงตัวเองที่ตัวเองมี

Naranjo กล่าวว่า Pillar ของ 7 คือความ Enthusiasm, Idealism and Social skills คน 7 Social มักจะเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ เขาสามารถจินตนาการถึงโลกที่ดีกว่า มีอิสระกว่า สุขภาพดีกว่า และสงบสุขกว่าได้อยู่เสมอๆ เขามักจะบรรยายถึงความหวังและสร้างพลังงานอันกะตือรือร้นต่อวิสัยทัศน์ของตัวเอง เขาจินตนาการถึงอนาคตที่สมบูรณ์แบบอยู่เสมอ เขามีแนวโน้มที่จะชักใยคนอื่นผ่านความ Enthusiasm ของตนเอง โดยผิวเผิน เขาดูเป็นคนที่มีความสุขและหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง

ในความสัมพันธ์ 7 Social มักจะรู้สึกขัดแย้งและลำบากเมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างความต้องการที่จะไม่ทำให้คนอื่นเจ็บปวด และความกลัวที่จะ Commit ของตนเอง ดังนั้นเพื่อที่จะรักษาความต้องการที่จะเป็นคนในอุดมคติเขาจึงมักตามหาความรักที่บริสุทธิ์และสมบูรณ์แบบ เขามักจะผลักตัวเองอยู่ในท่าทางที่ “ดีกว่า” หรือ “บริสุทธิ์กว่า” คู่ของตนโดยไม่รู้ตัว และคาดหวังว่าคู่ของตนจะค่อยๆ พัฒนามาสู่ความสมบูรณ์แบบ (ในแบบที่ตัวเองตั้งไว้ ผมเสริม) เขามักจะมีปัญหาในการเข้าใจความรู้สึกลึกๆ ของตัวเองเมื่อความสัมพันธ์ลึกซึ้งขึ้น

ด้วยความกะตือรือร้น ความสนุกสนาน และความปราถนาที่จะรับใช้และช่วยคนอื่น 7 Social สามารถมองเหมือน 2 ได้แต่ 2 จะโฟกัสกับคนอื่นและไม่ได้เชื่อมต่อกับตัวเองมากนัก ส่วน 7 Social ยังอยู่ในฐานตัวเองเป็นหลัก ดังนั้น 7 Social มักจะเข้าใจว่าตัวเองต้องการอะไรเสมอแม้ว่าสุดท้ายจะเลือกที่จะเสียสละสิ่งนั้นก็ตาม นอกจากนี้ ความต้องการช่วยคนอื่นของเขาเกิดจากความต้องการที่จะต่อต้านความรู้สึกเห็นแก่ตัว ไม่ใช่แค่ต้องการ Approve จากคนพิเศษที่เขาสนใจ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกถึงความต้องการของตัวเอง และมีแนวโน้มที่จะพยายามต่อต้านเพื่อช่วยคนอื่น หรือเพื่อรับใช้อุดมคติที่สูงส่ง

7 Social เป็นคนที่แลดูบริสุทธิ์และสามารถดูเหมือนคน 1 ได้ แต่คน 7 Social ต้องการเป็นคนดีเพื่อได้รับการยอมรับและไปสู่ความสมบูรณ์แบบที่มีอิทธิพลจากการยอมรับของสังคม ต่างกับ 1 ที่ความต้องการเหล่านี้ มาจากสัญชาตญาณภายในว่าอะไรคือถูกอะไรคือผิด

แนวทางการพัฒนาไปสู่ระดับการเติบโตที่สูงขึ้น

7 Social เดินจากจาก Gluttony ไป Sobriety โดยการเข้าถึง Motives เบื้องหลังสิ่งที่ตัวเองทำอย่างมีสติขึ้น ถ้าคุณเป็น 7 Social พยายามเข้าถึงและมีสติต่อความปราถนาที่จะให้คนอื่นรับรู้ว่าคุณเป็นผู้เสียสละ ความต้องการถูกรับรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่ Helpful ความต้องการอยากให้ถูกรับรู้ว่า “เป็นคนดี” โดยไม่ต้องตัดสินว่ามันเป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัวหรือคิดแต่ตัวเอง มองและทำงานกับ Pattern ความตะกละ/ต่อต้านความตะกละที่ต่อต้านกันตลอดเวลาในตัวคุณ และเปิดใจรับความกลัวหรือความต้องการบางอย่างที่อยู่ภายใน Pattern นั้น

พยายามระวังเวลาที่ความรู้สึกหรือความต้องการที่ขับเคลื่อนคุณอยู่ไม่ใช่ความรู้สึกหรือความต้องการของคุณเอง และสนับสนุนให้ตัวเองยอมรับความต้องการและความรู้สึกของตัวเองว่ามีความสำคัญ อนุญาตให้ตัวเองเห็นว่าตัวเองอาจจะตีตราความเห็นแก่ตัวเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งภายในหรือความต้องการลึกๆ ที่ไม่สวยงามและไม่อยากเห็น

ท้าทายให้ตัวเองซื่อสัตย์และยอมรับว่าตัวเองอาจจะสับสนระหว่างความเมตตาและ self-interest พยายามดึงความเป็นจริงเกี่ยวกับความต้องการลึกๆ ของตัวคุณออกมา และในระหว่างนั้นพยายามหยุดตัดสินว่า self-interest ของตัวเองเป็นสิ่งที่เลวร้าย

อย่าให้ความกลัวที่จะถูกมองว่าตัวเองไม่ใช่คนดี เข้ามาขัดขวางการมองเห็นว่าแท้จริงแล้วความต้องการของตัวเองคืออะไร

รับรู้ว่าบางครั้งคุณอาจจะชักใยตัวเองและคนอื่นผ่านความกะตือรือร้นและอุดมคติของตัวเองด้วยการให้เหตุผลอย่างชาญฉลาด และอนุญาตให้ตัวเองเห็นภาพที่ตัวเรานั้นยึดโยงกับอุดมคติและอุดมการณ์ในการอุทิศตนเพื่อคนอื่น เพื่อปัดเป่าความรู้สึกโหว่และว่างเปล่าในตัวเอง

สนับสนุนตัวคุณเองในการรับรู้ รู้สึกและดำรงอยู่ กับความกลัวที่จะมองถึงคุณค่าของตัวเอง และความดีงามในตัวเอง (ผมเสริม มันกลัวที่จะมองเข้าไป กลัวว่าถ้ามองลึกเกินไป อาจจะพบว่าจริงๆ แล้วเราไม่ได้มีคุณค่าอะไรแล้วเราเป็นแค่คนเห็นแก่ตัวที่หาอะไรดีไม่ได้เลย)

ให้เครดิตตัวเองกับเจตนาดีที่ตัวเองมี และนอกจากนี้ ให้พื้นที่ที่จะมองเห็นทุกๆ เจตนาของตัวเอง และมองเห็นข้อจำกัดในการมี Compassion (เสริม: คือเข้าใจว่าตัวเองไม่ได้สามารถมี Unlimit compassion กับทุกๆ สิ่ง และนั่นก็ไม่ผิดอะไร)

หมายเหตุ:

(1) คำว่า Exploit ในภาษาอังกฤษไม่มีคำแปลไทยที่ตรง เลยใช้ทับศัพท์ คำว่า Exploit ในภาษาอังกฤษเป็นคำที่แปลได้อารมณ์ประมาณว่า ใช้ทรัพยากรที่มีอย่างเต็มที่โดยไม่สนใจผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น มันไม่ได้แปลว่า “เอารัดเอาเปรียบ” เสมอไป แต่ก็ไม่ใช่เซนส์เดียวกับการที่ใช้ประโยชน์เต็มที่ในภาษาไทยที่มีความหมายเชิงบวก ในภาษาอังกฤษคำนี้ เป็นคำที่มีความหมายเชิงกลาง ขึ้นอยู่กับบริบท ซึ่งคน 7 เราไม่ได้อยากเอารัดเอาเปรียบใคร แต่มีอยากและแรงขับที่จะใช้ของที่มีตรงหน้าไม่ว่าจะทรัพยากรธรรมชาติ หรือมนุษย์ อย่างเต็มที่ตามความพอใจของตัวเอง โดยไม่สนผลทบ ถ้าในทางบวกคือใช้โอกาสเต็ม แต่ในทางลบก็เอาเปรียบได้

(2) Indulgent แปลว่า treat a person with special kindness, often in a way that is not good for them. ไม่สามารถหาคำไทยได้

--

--

Chris

I am a product builder who specializes in programming. Strongly believe in humanist.